สำหรับคอกาแฟที่รักและหลงใหลในรสชาติของกาแฟสด การมี เครื่องบดกาแฟ ไว้ที่บ้าน มีข้อดีมากมาย สามารถชงกาแฟได้รสชาติตามที่เราต้องการ โดยใช้เวลาไม่นาน และยังสามารถออกแบบเมนูได้หลากหลาย การที่เรามีเครื่องบดเมล็ดกาแฟ ไม่ว่าจเป็นเครื่องบดกาแฟแบบไฟฟ้า หรือ เครื่องบดเมล็ดกาแฟมือหมุน จะช่วยประหยัดเงินได้เป็นอย่างมากเลยทีเดียว เพราะอย่างที่ทราบกันว่า กาแฟสดถ้วยหนึ่ง ราคาสูงค่อนข้างสูง เมื่อเทียบกับราคากาแฟแบบปกติทั่วไป สำหรับคนที่ชื่นชอบดื่มกาแฟสด ส่วนใหญ่แล้วจะต้องดื่มทุกวัน และวันหนึ่งอาจจะดื่มหลายแก้ว ดังนั้น การมีเครื่องบดกาแฟไว้ที่บ้านจึงช่วยให้เราประหยัดเงินในกระเป๋าได้เป็นอย่างดี แล้วคุณจะลืมการดื่มกาแฟสำเร็จรูปไปเลยหากมีเครื่องบดกาแฟ ไม่ต้องเสียเวลาไปซื้อที่ร้านกาแฟกันอีกต่อไป


เครื่องบดกาแฟ (Coffee Grinder)
เช็คราคาจาก Lazada  เช็คราคาจาก Shopee

สารบัญ

เครื่องบดกาแฟ
ประเภทของเครื่องบดกาแฟ
10 อันดับ เครื่องบดกาแฟ ยี่ห้อไหนดี ปี 2021
1. Timemore C2 Coffee Grinder เครื่องบดกาแฟมือหมุน
2. KENEIYA Coffee grinder
3. Timemore Slim Plus Coffee Grinder
4. BUONO เครื่องบดกาแฟ รุ่น BUO-12CG03
5. Timemore Chestnut X Coffee Grinder
6. Coffee Bean Grinder เครื่องบดกาแฟวินเทจ
7. เครื่องบดกาแฟ  Duchess รุ่น CG9100S
8. JOWSUA เครื่องบดกาแฟ Coffee Grinder 600N
9. ETZEL เครื่องบดเมล็ดกาแฟ รุ่น SN7820
10. LOCK&LOCK เครื่องบดกาแฟ รุ่น EJC531
วิธีเลือกเครื่องบดกาแฟ
ขนาดเครื่องบดกาแฟ
ความละเอียดของการบด
บทสรุป


เครื่องบดกาแฟ

เครื่องบดเมล็ดกาแฟเป็นอุปกรณ์ที่ใช้สำหรับการบดเมล็ดกาแฟซึ่งจะถูกออกแบบมาให้ทำการบดเมล็ดกาแฟเพื่อให้ได้ผงกาแฟละเอียดเพื่อที่จะนำมาใช้ในการชงกาแฟสำหรับคนชื่นชอลในการดื่มกาแฟการได้ลิ้มรสชาติกาแฟจากเมล็ดกาแฟที่ได้รับการบดแบบสดใหม่ นั้นช่วยให้รสชาติและกลิ่นของกาแฟที่ได้นั้นมีความหอมและรสชาติที่ดีเพิ่มมากยิ่งขึ้นกว่ากาแฟที่ถูกบดทิ้งไว้นานแล้ว ปั้จจุบัน เครื่องบดกาแฟ มีราคาที่ถูกลงค่อนข้างมากและสามารถที่จะหามาใช้งานได้ง่ายกว่าในสมัยก่อนรวมถึงมีประสิทธิภาพในการทำงานและมีคุณภาพที่ดีเพียงพอที่จะนำมาใช้ในการบดกาแฟ 

จุดประสงค์หลักของการบดเมล็ดกาแฟ นั่นก็คือ การสกัดกาแฟ บดเมล็ดกาแฟเพื่อให้สารเคมีในตัวเมล็ดกาแฟนั้นถูกปลดปล่อยออกมา รสชาติ กลิ่น ครีมม่าก็จะถูกปลดปล่อยออกมาด้วย


ประเภทของเครื่องบดกาแฟ

  • เครื่องบดกาแฟมือหมุน เป็นเครื่องบดเมล็ดกาแฟที่เก่าแก่ ประกอบโถใส่เมล็ดกาแฟและด้ามจับหมุนเข้าด้วยกันก่อนใช้งาน โดยโถใส่เมล็ดจะมี 2 แบบให้เลือ กคือโถใส่เมล็ดกาแฟแบบที่มีฝาปิดมิดชิด และ โถใส่เมล็ดกาแฟแบบที่ไม่มีฝาปิด ซึ่งจะทำให้ได้กลิ่นหอมของกาแฟโชยมาในขณะบดเมล็ด ส่วนด้ามจับสำหรับหมุนบดนั้นก็จะมี 2 แบบให้เลือกได้แก่ ด้ามจับหมุนระนาบเดียวกับพื้น และ ด้ามจับที่หมุนในระนาบดิ่ง ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับความชอบของผู้ใช้งาน เหมาะสำหรับผู้ที่มีความชื่นชอบในความพิถีพิถันหรือเชี่ยวชาญในเรื่องกาแฟ เพราะต้องกำหนดน้ำหนักมือให้ได้ผงกาแฟที่ต้องการ  ข้อดีคือ ตัวเครื่อง มีน้ำหนักเบา ใช้งานง่าย รวมถึงการที่ไม่ใช้ไฟฟ้าจึงเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องเดินทางหรือต้องการพกติดตัว แต่ด้วยที่มันขนาดเล็ทำให้ปริมาณการบดกาแฟต่อครั้งได้ค่อนข้างน้อย ใช้เวลาบดนาน เหมาะสำหรับคนที่ไม่เร่งรีบ ตัวเครื่องทำจากวัสดุไม้ พลาสติก และ เหล็ก เป็นส่วนใหญ่ นิยมนำมาใช้ทำกาแฟพวก drip , french press , moka pot เป็นต้น
  • เครื่องบดเมล็ดกาแฟแบบไฟฟ้า สามารถบดเมล็ดกาแฟ ได้อย่างรวดเร็ว สามารถบดได้ครั้งละมากๆ  และ กำหนดความละเอียดในการบดได้  โถใส่เมล็ดกาแฟจะถูกปิดมิดชิด ไม่ทำให้เมล็ดกระเด็นหล่น และไม่สัมผัสกับอากาศ ทำให้ผงกาแฟสดที่ได้มีกลิ่มหอมนาน  ใช้งานได้สะดวกมาก กดสวิชต์เพียงคลิ๊กเดียว เครื่องก็ทำการบดเมล็ดกาแฟเลยทันที ซึ่งจะเครื่องบดแบบนี้จะมีเสียงดังเวลาบดด้วยความเร็วสูงทำให้เกิดความร้อนซึ่งส่งผลต่อรสชาติของกาแฟ เครื่องบดแบบนี้ต้องการพื้นที่ในการวางเหมาะสำหรับคนที่ต้องการความรวดเร็วในการบดไม่เน้นรสชาติมากเท่าไหร่ เครื่องบดเมล็ดกาแฟแบบไฟฟ้า ขนาดกลางและใหญ่สามารถบดได้อย่างรวดเร็ว และทำได้ครั้งละปริมาณมากๆสามารถตั้งค่าความละเอียด และเวลาในการชงได้เหมาะกับการทำกาแฟแบบ espresso เครื่องบดเมล็ดกาแฟแบบไฟฟ้าแบบเล็กทำระดับความละเอียดได้ไม่มากยิ่งใช้เวลาบดนานยิ่งละเอียดแนะนำให้ใช้สำหรับทำ moka pot แล ะfrench press 
ปัจจุบันหลายแบรนด์ชื่อดังผลิตเครื่องบดกาแฟ ออกสู่ท้องตลาดอย่างต่อเนื่อง เอาใจบาริสต้า ตลอดจนคอกาแฟได้เป็นอย่างดี เครื่องบดกาแฟจากแต่ละแบรนด์มีรูปร่าง และลักษณะของการใช้งานที่แตกต่างกัน บางรุ่นเหมาะกับธุรกิจกาแฟ เหมาะสำหรับบาริสต้ามืออาชีพ บางรุ่นก็สะดวกใช้ง่าย สามารถทำเองได้ง่ายๆ ที่บ้าน วันนี้เรามีเครื่องบดกาแฟมาแนะนำพร้อมวิธีการเลือกซื้อ จะมียี่ห้อไหนรุ่นไหนบ้างตามไปดูกันเลย 


10 อันดับ เครื่องบดกาแฟ ยี่ห้อไหนดี ปี 2021



1. Timemore C2 Coffee Grinder เครื่องบดกาแฟมือหมุน

Timemore C2 Coffee Grinder เครื่องบดกาแฟมือหมุน


Timemore C2 Coffee Grinder เครื่องบดกาแฟมือหมุน ที่ใช้งานต่อเนื่องได้อย่างยาวนาน จากวัสดุคุณภาพสูงที่ใช้ในการผลิตตัวสินค้า ด้วยความแข็งแรงทนทานและหรูหราของตัวอุปกรณ์ ที่เป็นผลมาจากวัสดุ Aluminum Alloy คุณภาพสูงที่ใช้ในการผลิต โดยที่ในหนึ่งรอบการใช้งานนั้นจะสามารถบดเมล็ดกาแฟได้ที่ประมาณ 25 กรัม และสามารถใช้งานได้อย่างคล่องตัวและลื่นไหล จากขนาดที่ไม่ใหญ่มากจนเกินไป และน้ำหนักของตัวอุปกรณ์ที่มีอยู่เพียงแค่ 430 กรัม ยิ่งไปกว่านั้นด้วยการออกแบบที่มีประสิทธิภาพจากทางแบรนด์ Timemore ยังเป็นส่วนที่ช่วยให้การปรับระดับความหยาบและความละเอียดในการบดกาแฟ



2. KENEIYA Coffee grinder

KENEIYA Coffee grinder


KENEIYA Coffee grinder เครื่องบดกาแฟ เครื่องบดเมล็ดกาแฟเครื่องทำกาแฟ เครื่องเตรียมเมล็ดกาแฟ อเนกประสงค์ เครื่องบดกาแฟไฟฟ้า เครื่องบดเมล็ดกาแฟอัตโนมัติ  ขนาดใหญ่แบบตั้งโต๊ะ ที่สามารถบดเมล็ดกาแฟพร้อมกันได้สูงสุดถึง 1,200 มิลลิตรในช่วงเวลาเดียวกัน ด้วยกำลังไฟฟ้าที่ใช้ในการทำงาน 1,000 วัตต์ ซึ่งในส่วนของการทำงานก็เรียกว่าไม่มีความซับซ้อนมากเท่าไหร่นัก จากการสั่งการผ่านทางหน้าหน้าจอที่ถูกติดตั้งอยู่บริเวณด้านหน้าของตัวเครื่อง โดยในส่วนของจุดเด่นที่ทำให้รุ่นนี้มีความน่าสนใจเป็นอย่างมากนั้น จะเป็นในเรื่องของจำนวนการบดเมล็ดกาแฟต่อหนึ่งรอบการใช้งาน ที่ถุกออกแบบมาให้เพียงพอต่อการดื่มกาแฟของคน 10 คนได้อย่างเพียงพอในครั้งเดียว เพราะฉะนั้นหากคุณเป็นครอบครัวใหญ่ ที่กำลังมองหาเครื่องบดกาแฟประสิทธิภาพสูงสำหรับใช้งานภายในบ้าน 

  • กำลังไฟ 1000W
  • ตัวกรองถอดได้
  • ความจุถ้วย 1200ML
  • ตัวเครื่องทำจากสแตนเลส
  • ใช้งานง่ายโดยคลิกเดียวโดยตรง




3. Timemore Slim Plus Coffee Grinder

Timemore Slim Plus Coffee Grinder


Timemore Slim Plus Coffee Grinder เครื่องบดกาแฟมือหมุน  เฟืองรุ่นใหม่ล่าสุด เพื่อการบดตัดที่เร็วขึ้น เบาแรงขึ้น สม่ำเสมอมากขึ้น ด้วยการทำงานพร้อมกันของเฟืองด้านบนและด้านล่าง (ตัดหยาบด้านบน และบดละเอียดด้านล่าง) เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการใช้งานสองแบบ ทั้ง Pour Over และ Espresso เฟือง Carbon Stainless Titanium นำเข้าจากประเทศอิตาลี่ สำหรับการบดที่เน้นการทำ Espresso เป็นส่วนใหญ่ เพื่อการบดตัดที่เบาแรงขึ้น และแข็งแรงเป็นพิเศษ

  • วัสดุทำจากโลหะ และไม้ Walnut ธรรมชาติ
  • ทรวดทรงเป็นที่ประทับใจตรึงตาต่อผู้พบเห็น
  • บดกาแฟได้ครั้งละ 20 กรัม เพียงพอต่อความต้องการ
  • ปรับระดับความหยาบของกาแฟได้อย่างละเอียดแม่นยำ
  • เฟืองมีดใบบดทำจาก เหล็กสแตนเลส HRC 58
  • Body ทำจาก Aluminum Alloy เบาแต่แข็งแรง (หมุนง่าย เบาแรง ผิวสัมผัสดีมากครับ)
  • ซองผ้าและแปรงทำความสะอาดมีพร้อมอยู่ใน Set
  • HRC 58 เป็นสแตนเลสชุบแข็ง แข็งแรงกว่าสแตนเลสทั่วไปทำให้ใบตัดมีอายุการใช้งานนานและคม



4. BUONO เครื่องบดกาแฟ รุ่น BUO-12CG03

BUONO เครื่องบดกาแฟ รุ่น BUO-12CG03


BUONO เครื่องบดกาแฟ รุ่น BUO-12CG03 VERASU วีรสุ เครื่องชงกาแฟ เครื่องทำกาแฟ สำหรับใช้ในบ้าน เครื่องบดกาแฟแบบอัตโนมัติประสิทธิภาพสูง ที่สามารถเลือกปรับระดับความละเอียดในการบดกาแฟได้สูงสุดถึง 31 ระดับ ตามความชื่นชอบของแต่ละคน โดยที่ในส่วนของการสั่งใช้งานตัวเครื่องนั้น ก็นับว่าทำได้อย่างง่ายดายไม่ซับซ้อนผ่านทางปุ่มกดและปุ่มปรับหมุน ที่ถูกติดตั้งอยู่บริเวณด้านหน้าของตัวอุปกรณ์ และบดกาแฟได้พร้อมกันสูงสุดได้มากถึง 275 กรัมตามปริมาตรความจุของโถเก็บเมล็ดกาแฟ ที่สำคัญด้วยขนาดของตัวเครื่องที่ไม่ได้ใหญ่มากจนเกินไป ก็ยังเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่ทำให้ทั้งการจัดวางและการเคลื่อนย้ายตัวเครื่องทำได้ง่าย

  • เครื่องบดกาแฟ
  • ใช้งานง่ายแม้เป็นมือใหม่
  • สามารถปรับความหยาบ-ละเอียดได้ 31 ระดับ โดยการหมุนที่ตัวโถ
  • มีล็อคที่ตัวโถบด
  • มีหน้าจอแสดงผล LED
  • มีปุ่มตั้งเวลาบดต่อถ้วย
  • มีแปรงทำความสะอาด
  • สายไฟยาว 80 ซม. (รวมปลั๊ก)
  • วัสดุ: เครื่องพลาสติก, ใบมีดบดสเตนเลส
  • ความจุ: โถบดเมล็ดกาแฟ 275 ก., โถใส่ผงกาแฟ 100 ก.
  • กำลังไฟ: 180 วัตต์ / 230 โวลต์ / 50 เฮิรตซ์
  • สี: ดำ
  • ขนาด: ตัวเครื่อง ก. 11 x ล.18 x ส. 30 ซม. / โถบดเมล็ดกาแฟ เส้นผ่านศูนย์กลาง 18 ซม. x ส. 9 ซม. / โถใส่ผงกาแฟ เส้นผ่านศูนย์กลาง 8 ซม. x ส. 8 ซม.




5. Timemore Chestnut X Coffee Grinder

Timemore Chestnut X Coffee Grinder


เครื่องบดกาแฟมือหมุน Timemore Chestnut X ขนาดเล็กกะทัดรัดดีไซน์การออกแบบสุดหรูหรา ที่ใช้งานได้อย่างยาวนานจากวัสดุในการผลิต ซึ่งมีคุณภาพจัดอยู่ในระดับยอดเยี่ยม ออกแบบมาให้สามารถบดเมล็ดกาแฟได้จากทุกที่ที่คุณต้องการ โดยที่จุดเด่นของอุปกรณ์ตัวนี้ จะอยู่ในเรื่องของความละเอียดในการบดเมล็ดกาแฟ ที่สามารถทำได้ถึง 23 ระดับ ด้วยการปรับระดับบริเวณด้านล่างของตัวอุปกรณ์ ส่วนในเรื่องของดีไซน์การออกแบบและคุณภาพของตัวสินค้านั้น ก็นับว่าจัดอยู่ในระดับที่ยอดเยี่ยม จากการใช้งานวัสดุแบบ Aluminum Alloy ความแข็งแรงทนทานสูง  นวัตกรรมเครื่องบดกาแฟมือหมุนจาก Timemore ที่ปรับปรุงแนวคิดเดิมให้เพิ่มประสิทธิภาพดียิ่งขึ้นการออกแบบใหม่หมด ทั้งตัวบอดี้ ก้านหมุน ถ้วยรอง รวมถึงโครงสร้างภายในเฟืองบดที่ผ่านการคิด สร้างสรรค์ และทดสอบจนมั่นใจว่า จะสร้างความพิเศษให้กาแฟของคุณในทุกๆ เวลา



6. Coffee Bean Grinder เครื่องบดกาแฟวินเทจ

Coffee Bean Grinder เครื่องบดกาแฟวินเทจ


Coffee Bean Grinder เครื่องบดกาแฟวินเทจ เครื่องบดสมุนไพร บดเมล็ดถั่ว ที่บดเม็ดกาแฟ เครื่องบดกาแฟ แบบมือหมุน เครื่องบดเมล็ดกาแฟ Deemrt เครื่องบดกาแฟดีไซน์ทันสมัย โถบดแบบโคนพร้อมยางกันขอบ อีก ดีไซน์ที่สวยงามทันสมัยซึ่งโถจุผลิตจากแก้วที่มีความหนาพิเศษสามารถความจุผงกาแฟได้ 75 กรัม ด้ามจับทำจากสเตนเลสชนิดแข็งช่วยลดการออกแรงหมุน และสามารถหมุนแกนเพื่อปรับระดับความหยาบละเอียดได้ นอกจากนี้โถบดพร้อมฝาและยางกันขอบทั้งหมดเป็นซิลิโคน ช่วยให้ผงกาแฟไหลผ่านเครื่องบดได้ดีไม่เกาะติดขอบโถ อย่างไรก็ตามด้วยลักษณะใบมีดเซรามิกที่เป็นเฟืองบดธรรมดาทำให้ผงกาแฟที่ได้ค่อนข้างไม่สม่ำเสมอ รวมไปถึงอาจเกิดปัญหาเรื่องความชื้นและกลิ่นไม่พึงประสงค์ของโถบดซิลิโคนที่ใช้ในระยะยาวด้วย




7. Duchess เครื่องบดกาแฟ รุ่น CG9100S

Duchess เครื่องบดกาแฟ รุ่น CG9100S


Duchess CG9100 - เครื่องบดเมล็ดกาแฟ รุ่น CG9100 มีให้เลือก 2 สี (สีแดง/สีเงิน) สามารถ บดธัญพืชเปลือกแข็งทุกได้ทุกชนิด ตัวมอเตอร์แข็งแรง ใบพัดสเตนเลสแข็งแรง ทนทาน ใช้งานง่าย มองเห็นการบดได้  ตัวเครื่องผลิตจากพลาสติกเนื้อหนาและสเตนเลสแข็ง ใช้มอเตอร์ที่มีความเร็วรอบในการบดถึง 12,000 รอบ/ นาที ฝาด้านบนโปรงใสสามารถมองเห็นลักษณะการบดได้ง่าย ใบมีดเป็นแบบใบพัดผลิตจากสเตนเลสแข็งพิเศษ ทนทานต่อการสึกกร่อนและช่วยให้บดได้ละเอียดขึ้นไปในตัว นอกจากนี้ยังสามารถใช้บดธัญพืชเปลือกแข็งและเครื่องเทศ แต่ทั้งนี้ความละเอียดนั้นขึ้นอยู่กับระยะเวลาการบดเพราะเครื่องรุ่นนี้ยังไม่สามารถปรับระดับความละเอียด



8. JOWSUA เครื่องบดกาแฟ Coffee Grinder 600N

JOWSUA เครื่องบดกาแฟ Coffee Grinder 600N


JOWSUA เครื่องบดเมล็ดกาแฟไฟฟ้า Coffee Grinder 600N BLACK ใช้งานได้อย่างหลากหลาย ไม่เพียงแค่บดกาแฟเท่านั้น แต่ยังสามารถบดพวกธัญพืช หรือเมล็ดอื่นๆ มอเตอร์แข็งแรงทนทาน ออกแบบมาให้บดได้ปริมาณมาก บอดี้ผลิตจากพลาสติก และสแตนเลส ที่แข็งแรงทนทาน  ปรับระดับความละเอียดได้ 8 ระดับ ใช้ได้ทั้งเครื่องชงแรงดันและชงดริป  ด้ามจับยาว เพื่อให้ง่ายต่อการบด และช่วยให้ได้ผงกาแฟที่ละเอียดมากยิ่งขึ้น ถาดรองแยกกับตัวเครื่องนำไปใช้หรือสามารถถอดล้างสะดวก

  • บดเมล็ดกาแฟ ธัญพืช หรือเมล็ดอื่นๆ
  • มอเตอร์แข็งแรงทนทาน ออกแบบมาให้บดได้ปริมาณมาก
  • ปรับระดับความละเอียดได้ 8 ระดับ ใช้ทั้งเครื่องชงแรงดันและชงดริป
  • ถาดรองแยกกับตัวเครื่องนำไปใช้หรือถอดล้างสะดวก




9. ETZEL เครื่องบดเมล็ดกาแฟ รุ่น SN7820

ETZEL เครื่องบดเมล็ดกาแฟ รุ่น SN7820


ETZEL เครื่องบดเมล็ดกาแฟ รุ่น SN7820 ใช้งานง่ายเพียงกดฝาด้านบน พร้อมซีลยางป้องกันการกระจาย อีกหนึ่งความทนทานใช้งานง่ายจาก ETZEL ที่ตัวเครื่องทำจากสเตนเลสเนื้อหนา สวยงาม เริ่มการบดได้ด้วยการกดฝาด้านบน ซึ่งเป็นฝาโปร่งใสทำให้สามารถมองเห็นการบดได้ ฐานใบมีดเป็นแบบใบพัดทำจากสเตนเลสชนิดแข็งมีอายุการใช้งานยาวนาน ไม่ดูดซับความร้อน และสามารถถอดล้างทำความสะอาดได้ รวมทั้งยังมีขีด MAX กำหนดความจุสูงสุด 75 กรัมอยู่ภายในโถ มีระบบหยุดการทำงานทันทีในกรณีที่ปิดฝาไม่ตรงกับล็อก พร้อมซีลยางที่บริเวณฝาช่วยป้องกันการกระจายของผงกาแฟในขณะที่เครื่องทำงาน

  • วัสดุเป็นพลาสติกเนื้อหนาและสแตนเลส สวยงาม ทนทาน
  • โถปั่น และใบมีดสแตนเลสแท้
  • โถปั่นสามารถถอดล้างทำความสะอาดได้อย่างง่ายดาย
  • ส่วนเก็บสายไฟด้านล่างของตัวเครื่อง ไม่เกะกะ
  • พร้อมยางกันลื่น เกาะแน่นกับพื้นผิว ไม่เลื่อน ไม่ล้ม เพื่อความมั่นคงในการใช้งาน
  • ใช้งานง่าย เพียงกดฝาด้านบน เครื่องก็จะทำงาน
  • ระบบเซฟตี้ หากปิดฝาไม่ตรงล็อค เครื่องจะไม่ทำงาน
  • กำลังไฟสูง 200w ปั่นละเอียดทุกการใช้งาน
  • ความจุสูงสุด 75g พร้อมขีด Max ด้านในโถปั่น
  • ฝาด้านบนโปร่งใสสะดวกในการสังเกตสภาพการทำงาน
  • ซีลยางที่ฝา ป้องกันการหล่นกระจายของวัตถุดิบขณะใช้งาน
  • ความละเอียดเมล็ดกาแฟขึ้นอยู่กับเวลาในการทำงานของเครื่อง
  • สามารถบดเครื่องเทศและธัญพืชเปลือกแข็งได้ดี
  • รับประกัน 1 ปีเต็ม
  • Grinder Model : SN-7820
  • 220-240V / 50Hz / 200W
  • Capacity : 75g
  • size : 108x108x206 mm (LxWxH)
  • Weight : 1 kg (1.1 kg include package)




10. LOCK&LOCK เครื่องบดกาแฟ รุ่น EJC531

LOCK&LOCK เครื่องบดกาแฟ รุ่น EJC531


LOCK&LOCK เครื่องบดกาแฟ DIGITAL COFFEE MAKER ขนาด 0.6L รุ่น EJC531 เครื่องสามารถเลือกปรับลักษณะของเมล็ดกาแฟที่คุณต้องการใสล่งไปได้ บดเมลด็กาแฟได้ถึง 3 ระดับ (เข้ม-กลาง-อ่อน) รวมถึงโหมดชงกาแฟที่บดแล้ว (เลือกได้ 4ระดับ)ภาชนะบรรจกุาแฟมีความจพุอเหมาะ พร้อมฐาน Hot Plateสำหรับโหมดอุ่นใช้งานง่าย สะดวกสบายด้วยแผงควบคมุระบบสัมผัสประหยัดไฟเพราะโหมด Sleep หากไม่มีการกดป่มุใดๆ ในเวลา 60 วินาทีทกุชิ้นส่วนสามารถนำมาถอดล้างทำความสะอาดได้ง่ายหน้าจอเป็นนาฬิกาได้



วิธีเลือกเครื่องบดกาแฟ

เครื่องบดกาแฟ (Coffee Grinder)
เช็คราคาจาก Lazada  เช็คราคาจาก Shopee

  • เลือกที่ระบบการใช้งานเครื่องบดกาแฟ มี 2 แบบ คือ เครื่องบดกาแฟมือหมุนและเครื่องบดเมล็ดกาแฟไฟฟ้า ถ้าต้องการใช้งานง่าย กะทัดรัด บดไม่มาก ให้เลือกซื้อแบบมือหมุน แต่ถ้าบดกาแฟปริมาณมากๆ ปรับระดับความละเอียดของการบดได้ควรซื้อแบบไฟฟ้าจะทุ่นแรง และประหยัดเวลา
  • เลือกแบบที่สามารถเลือกระดับความละเอียดได้เวลาเปลี่ยนเมล็ดกาแฟ หรือต้องการรสชาติที่แปลกไป จะได้สามารถใช้เครื่องบดเครื่องเดิมได้อยู่ อีกทั้งยังมีความยืดหยุ่นในการทำงานมากกว่า 
  • เลือกใบมีดเซรามิก หรือ สแตนเลส ทั้งสองใบมีดก็มีข้อดีและข้อเสียต่างกันไป อยู่ที่ว่าใครจะสะดวกใช้งานแบบไหน ถ้าชอบกลิ่นหอมๆ ของกาแฟตัวจริง ก็ต้องแบบเซรามิก แต่ถ้าชอบเร็วๆ ละเอียดๆ ใบมีดสแตนเลส
  • เลือกที่การรักษากลิ่นกาแฟ ถ้าคนที่ชอบกลิ่นหอมของกาแฟมาก ๆ และให้ความสำคัญเป็นพิเศษ ให้ซื้อแบบมือหมุนมาใช้ เพราะเก็บรักษากลิ่นได้ดีกว่าแบบไฟฟ้า เครื่องบดกาแฟ แบบไฟฟ้า จะเกิดความร้อนที่จะไปลดกลิ่นกาแฟลง
  • เครื่องบดกาแฟ แต่ละประเภทก็ล้วนแล้วแต่มีขนาด ที่แตกต่างกันออกไปตามรูปแบบการใช้งานของเครื่องแต่ละรุ่น จึงมีความแตกต่างกันในเรื่องของขนาดพื้นที่ ที่จะต้องใช้ในการจัดเก็บตัวอุปกรณ์ให้ เลือกซื้อรุ่นที่ต้องการ เพื่อการใช้งานได้แบบไม่กินพื้นที่ในการจัดวาง
  • เลือกจากวัสดุที่ใช้ในการผลิตเครื่องบดเมล็ดกาแฟ ว่าจะใช้งานทั่วไปในชีวิตประจำวันหรือสำหรับเปิดร้านกาแฟ เน้นความแข็งแรงทนทาน และอายุการใช้งาน
  • ตรวจสอบกำลังไฟฟ้าที่ใช้ในการทำงานของตัวเครื่อง เพราะยิ่งกำลังไฟฟ้าในการทำงานของเครื่องรุ่นนั้น ๆ ยิ่งสูงมากเท่าไหร่ ก็จะทำให้ความสามารถในการทำงานของตัวอุปกรณ์สูงมากยิ่งขึ้นซึ่ง ส่งผลต่อค่าใช้จ่ายในการเปิดใช้งานตัวเครื่องไปด้วยดังนั้นควร เลือกซื้อได้อย่างเหมาะสมและคุ้มค่ามากที่สุด 
  • มาตรฐานความปลอดภัยของตัวอุปกรณ เพื่อให้มั่นใจได้มากยิ่งขึ้นเมื่อจำเป็นจะต้องใช้งานอุปกรณ์ตัวดังกล่าวในทุกสถานการณ์ รวมไปถึงยังจะเป็นส่วนที่ทำให้อายุการใช้งานของตัวอุปกรณ์ยาวนานได้มากยิ่งขึ้น


ขนาดเครื่องบดกาแฟ

  • เครื่องบดกาแฟ สำหรับใช้งานในครัวเรือน เป็นเครื่องบดกาแฟขนาดเล็ก มีจานบดขนาดเล็ก ใช้เวลาในการบดนาน
  • เครื่องบดกาแฟ สำหรับใช้งานในร้านกาแฟประเภทบดชงเครื่องดื่ม แนะนำเครื่องที่มีออกแบบมารองรับการทำงานที่หนักขึ้น บดกาแฟได้รวดเร็วขึ้น
  • เครื่องบดกาแฟ สำหรับใช้งานในร้านกาแฟประเภทบดใส่ถุงจำหน่าย เครื่องบดที่มุ่งเน้นเรื่องความเร็วในการบดกาแฟเป็นหลัก
  • เครื่องบดกาแฟ สำหรับใช้งานแบบอุตสหกรรม เครื่องบดที่เน้นกำลังผลิตสูง


ความละเอียดของการบด

  • การบดเมล็ดกาแฟแบบหยาบ เหมาะสำหรับการชงกาแฟเฟรนช์เพรส รวมถึงเครื่องชงกาแฟสุญญากาศ
  • การบดแบบปานกลาง  เหมาะสำหรับการใช้กับเครื่องชงกาแฟแบบดริปที่ทำงานด้วยระบบอัตโนมัติ และใช้แผ่นกรองที่มีลักษณะก้นแบน แต่ถ้าต้องการใช้กับแผ่นกรองรูปกรวย ควรบดเมล็ดกาแฟให้มีความละเอียดเพิ่มขึ้น
  • การบดสำหรับกาแฟเอสเปรสโซโดยเฉพาะ ถ้าต้องการดื่มกาแฟเอสเปรสโซจากเครื่องชงกาแฟแบบ stovetop หรือต้องการชงกาแฟจากเครื่องชงแบบดริป ที่ใช้แผ่นกรองรูปกรวย ก็ควรบดให้เมล็ดกาแฟจนละเอียด แต่ถ้าเป็นเครื่องที่เอาไว้ชงกาแฟเอสเปรซโซโดยเฉพาะ ควรใช้ผงกาแฟที่มีความละเอียดสูงที่สุด

เครื่องบดกาแฟไฟฟ้า
การชงกาแฟให้มีรสชาติที่ดี นอกจากเครื่องชงแล้ว การบดกาแฟก็มีความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง กาแฟแต่ละชนิดจะใช้ผงกาแฟที่มีความละเอียดแตกต่างกัน เครื่องบดกาแฟแต่ละชนิดก็จะให้ผงกาแฟที่มีลักษณะแตกต่างกัน รวมถึงเครื่องบดแต่ละแบบก็มีข้อดีข้อเสียที่ไม่เหมือนกัน ดังนั้นการเลือกเครื่องบดกาแฟที่เหมาะสม ก็จะช่วยทำให้คุณได้ดื่มกาแฟที่มีรสชาติที่ดี


บทสรุป

การดื่มกาแฟเพื่อให้ได้รสชาติและกลิ่น ที่ดีที่สุด คือการดื่มกาแฟจากการบดเมล็ดกาแฟแล้วชงทันที การชงกาแฟในหอมอร่อย ต้องอาศัยอุปกรณ์หลายอย่าง โดยเฉพาะ “เครื่องบดกาแฟ” ซึ่งเป็นอุปกรณ์ที่ทำให้เมล็ดกาแฟ บดละเอียด ส่งกลิ่นหอม พร้อมให้คอแฟได้ลิ้มลองรสนุ่มลึก ในปัจจุบันเครื่องบดกาแฟ มีหลายลักษณะ สะดวกขึ้น สามารถซื้อไปใช้เองได้ที่บ้านหรือสำนักงาน คอกาแฟ ไม่ควรพลาดหาไปใช้สักเครื่อง รับรองได้ดื่มด่ำกับรสชาติกาแฟสดที่หอมกรุ่นกว่าเดิมแน่นอน