พรมปูพื้น เป็นหนึ่งในอุปกรณ์ตกแต่งบ้านและสำนักงานที่ส่งผลต่อบรรยากาศภายในห้องซึ่งจะสร้างความโดดเด่น และเพิ่มความน่าอยู่ให้กับภายในตัวบ้านและสำนักงานได้เป็นอย่างดี การปูพรมนั้นไม่ได้ให้แค่ความสวยงามและทำให้บ้านดูมีสไตล์มากขึ้นเท่านั้น แต่ยังมีประโยชน์ในด้านอื่นๆ  ดังนั้นการเลือกพรม ปูพื้นทั้งที แน่นอนว่าต้องเลือกแบบที่ช่วยเสริมบรรยากาศของบ้านให้ดูสวยโดดเด่นยิ่งขึ้น การใช้พรมปูพื้นเพื่อเป็นการตกแต่งบริเวณภายใน รวมถึงห้องรับแขก ห้องนั่งเล่นต่างๆ ให้เกิดความสวยงาม และมีมิติดึงดูดความน่าสนใจ และเหมาะสำหรับผู้ที่ชอบดีไซน์การตกแต่งภายในบ้าน และอาคารเพื่อให้เกิดความโมเดิร์นและน่าอยู่มากยิ่งขึ้น  

พรมปูพื้น เสื่อ พรมเช็ดเท้า
เช็คราคาจาก Lazada  เช็คราคาจาก Shopee

สารบัญ


ทำไมต้องปูพรมในบ้าน
ชนิดวัสดุของพรมปูพื้น
10 อันดับ พรมปูพื้น ยี่ห้อไหนดี ปี 2021
1. INDEX LIVING MALL พรมปูพื้น รุ่น โฟล์คมิกซ์
2. พรมปูพื้นห้อง สีน้ำตาล หนา 2 ซม. ผลิตด้วย Memory Foam
3. พรมปูพื้นห้องนั่งเล่น พรมปูพื้นห้องนอนขนนุ่ม
4. พรมแบบ 3D พรมปูข้างเตียง พรมปูพื้นห้องนั่งเล่น
5. พรมในห้องนั่งเล่น พรมห้องนอน พรมนุ่มๆกันลื่น
6. พรมปูพื้นห้อง หนานุ่ม เมมโมรี่โฟม
7. พรม พรมปูพื้น พรมห้องนั่งเล่น พรมห้องนอน พรมขนยาว พรมทูโทน
8. Shuaicai Retro พรมหรูหราเสื่อลื่นพรมปูพื้นสำหรับกาแฟ
9. พรมปูพื้นห้อง ขนาด 80x120 cm.YF-1292 
10. TTO พรม พรมปูพื้น สีทูโทน
วิธีเลือกพรมปูพื้น
พรมในบ้าน มีอะไรบ้าง?
ข้อดีของพรมปูพื้น
ข้อเสียของพรมปูพื้น
บทสรุป


ทำไมต้องปูพรมในบ้าน

การปูพรมในบ้านถือเป็นการเปลี่ยนลักษณะรูปลักษณ์ของบ้านที่ง่ายและรวดเร็วที่สุด เพราะการปูพรมผืนหนึ่งสามารถเปลี่ยนบรรยากาศของห้องธรรมดาๆ ให้ดูอบอุ่นสบายตา มีชีวิตชีวา หรือดูหรูหราขึ้นมาได้ในพริบตาเดียว โดยเฉพาะพรมที่มีความอ่อนนุ่ม ให้ความรู้สึกผ่อนคลาย และให้สัมผัสที่นุ่มเท้า สามารถช่วยป้องกันความรุนแรงจากอุบัติเหตุลื่นล้มได้ในระดับหนึ่ง นอกจากเรื่องนี้ยังช่วยดูดซับเสียงในโซนกิจกรรมดูหนังฟังเพลงของบ้าน และช่วยรักษาอุณหภูมิในห้อง ทำให้เครื่องปรับอากาศไม่ต้องทำงานหนักอีกด้วย


ชนิดวัสดุของพรมปูพื้น

  • พรมไนลอน (Nylon) เป็นพรมที่นิยมใช้กันมากเพราะมีหลายสี และทานมากที่สุด กันน้ำ รอยขีดข่วน เชื้อรา และสารเคมีต่าง ๆ ได้ดีอีกทั้งยังดูแลรักษาได้ง่าย ส่วนราคาก็ไม่แพงเท่าไหร่ แต่จะแพงกว่าพรมโพลีเอสเตอร์และโพลีโพรไพลีนนิดหน่อย เมื่อโดนแสงแดดเป็นเวลานานสีจะซีด มีอายุการใช้งานประมาณ 12–15 ปี
  • พรมโพลีโพรไพลีน (Polypropylene) ป้องกันคราบสกปรกได้ดีและกันด้วย ป้องกันรอยขีดข่วนและเชื้อรา ทำความสะอาดง่าย เหมาะกับพื้นห้องที่ต้องรับน้ำหนักมาก เช่น ห้องนั่งเล่น ใช้กับสนามกีฬาหญ้าเทียมก็ยังได้ ส่วนราคานั้นจะต่ำกว่าพรมขนสัตว์ ไนลอนและโพลีเอสเตอร์
  • พรมโพลีเอสเตอร์ (Polyester) ดูหรูหรา นุ่มสบาย มีคุณสมบัติกันน้ำได้ดี แต่ข้อเสียของพรมชนิดนี้ ็คือทำความสะอาดค่อนข้างยาก ไม่สามารถรองรับการใช้งานและน้ำหนักได้มากเหมือนพรมชนิดอื่น ๆ และสีจะซีดถ้าโดนแดดเป็นเวลานาน ฉะนั้นจึงเหมาะกับพื้นที่ที่ไม่ได้ใช้งานหนัก เช่น ห้องนอน เป็นต้น
  • พรมโพลีเอทิลีน (Polyethylene) เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เพราะทำมาจากฝาขวดรีไซเคิล ข้อดี คือมีสีสดใสและลวดลายที่หลากหลาย มีคุณสมบัติป้องกันคราบมากกว่าไนลอน เพราะทำมาจากพลาสติกจึงไม่ก่อให้เกิดภูมิแพ้ ราคาต่ำกว่าพรมขนสัตว์และไนลอน แต่พื้นสัมผัสที่ได้จะไม่ค่อยสบายสักเท่าไรเพราะทำมาจากพลาสติก
  • พรมขนสัตว์ (Wool) เป็นพรมที่มีราคาค่อนข้างแพง เนื่องจากทำมาจากธรรมชาติ 100% มีความหรูหรา หนานุ่ม แข็งแรง ป้องกันคราบและรอยเปื้อนได้ดี ให้สัมผัสที่นุ่มสบายที่สุดในบรรดาชนิดของพรมทั้งหมด พรมขนสัตว์ ทนทานต่อการใช้งานและมีให้เลือกหลายสี แต่ก็มีข้อเสียคืออาจจะทำให้เกิดโรคภูมิแพ้ ดูแลทำความสะอาดค่อนข้างยาก สีจะซีดเมื่อโดนแดดและสารเคมีที่ใช้ทำความสะอาด และเมื่อใช้ไปสักระยะจะมีแมลงต่าง ๆ มาอาศัยอยู่ ฉะนั้นจึงต้องหมั่นทำความสะอาดเป็นประจำ
  • พรมอะคริลิก (Acrylic) เป็นพรมที่ทำขึ้นมาเลียนแบบพรมขนสัตว์ มีลักษณะและสัมผัสคล้ายกับพรมขนสัตว์แต่ราคาจะถูกกว่ามาก ข้อดีของพรมชนิดนี้คือไม่ก่อให้เกิดไฟฟ้าสถิต กันความชื้น คราบสกปรก แต่จะไม่แข็งแรงทนทาน ไม่เหมาะกับการใช้งานหนัก

การปูพรมนั้นไม่ได้ให้แค่ความสวยงามและทำให้บ้านดูมีสไตล์เพิ่มขึ้น แต่ยังมีประโยชน์ในด้านอื่นๆ ซึ่งการปูพรมนั้นจะดีกว่าปล่อยให้พื้นบ้านโล่งๆ ในปัจจุบันพรมปูพื้น นั้นมีมากมายหลายแบบให้เลือก ทั้งรูปทรง สีสัน ลวดลาย วัสดุ และขนาดของพรมที่มีตั้งแต่ไซส์เล็กเท่ากรอบประตูไปจนถึงไซส์ใหญ่ที่ปูได้ทั้งห้อง สำหรับคนที่อยากได้พรมปูพื้นบ้านสวย ๆ และเหมาะกับไลฟ์สไตล์ของตัวเอง วันนี้เราจะมาแนะนำถึงวิธี การเลือกซื้อ เพื่อให้ได้พรมที่ทั้งสวยและทนทาน เหมาะสมกับการใช้งานและคุ้มค่ากับเงินที่จ่ายไป จะมีแบบไหนตามไปดูกันเลย


10 อันดับ พรมปูพื้น ยี่ห้อไหนดี ปี 2021



1. INDEX LIVING MALL พรมปูพื้น รุ่น โฟล์คมิกซ์

INDEX LIVING MALL พรมปูพื้น รุ่น โฟล์คมิกซ์


INDEX LIVING MALL พรมปูพื้น รุ่น โฟล์คมิกซ์ 120 x 180 ซม. - สีน้ำตาลอ่อน  วัสดุการผลิต :โพลี่เอสเตอร์ 100% คุณภาพจึงทำให้มีความทนทานที่สูงมาก สามารถระบายอากาศได้ดีมาก ไม่ทำให้เกิดกลิ่นอับ ขนาดสินค้า :120X180 CM คุณสมบัติ- พรมปูพื้นแบบขนสั้น- โพลี่เอสเตอร์ 100%- ขนนุ่มสบายเท้า- พรมทอขนสั้น 1 ซม.- น้ำหนัก 1300 gsm. การดูแลรักษา- ดูดฝุ่นสม่ำเสมอ- หมุนพรมเพื่อการใช้งานทั่วผืน- ทำความสะอาดทันทีหากเลอะของเหลวด้วยผ้าหมาด- แนะนำให้จ้างผู้ชำนาญทางพรมเพื่อการทำความสะอาดคราบที่ติดแน่น




2. พรมปูพื้นห้อง สีน้ำตาล หนา 2 ซม. ผลิตด้วย Memory Foam

พรมปูพื้นห้อง สีน้ำตาล หนา 2 ซม. ผลิตด้วย Memory Foam


พรมปูพื้นห้อง สีน้ำตาล หนา 2 ซม. ผลิตด้วย Memory Foam ขนสั้น ทำความสะอาดง่าย ไม่อมฝุ่น ทำให้สามารถใช้งานได้อย่างยาวนานเลย] ตัวพรมมีความหนา 2 ซม  ถือว่าหนาใช้ เหมาะสำหรับการปูในห้องนอนและห้องนั่งเล่น เนื่องจากทำจากวัสดุอย่างดีมันจึงไม่อมฝุ่น อีกทั้งยังทำความสะอาดได้อย่างง่ายดาย เหมาะมากสำหรับคนที่อยากได้พรมปูพื้นแบบหนา ๆ



3. พรมปูพื้นห้องนั่งเล่น พรมปูพื้นห้องนอนขนนุ่ม

พรมปูพื้นห้องนั่งเล่น พรมปูพื้นห้องนอนขนนุ่ม


พรม พรมปูห้องนอน ขนนุ่ม ขนาด120x160 มีหลายสี ราคาถูก พรมขนนุ่ม พรมปูพื้น ขนาด140x200 cm. พรมปูพื้นห้องนั่งเล่น ห้องนอน ราคาถูกมีหลายให้เลือก หลากสีและลวดลายที่หลากสไตล์เพื่อเนรมิตบรรยากาศภายในห้องนอนของคุณให้น่าอยู่มากยิ่งขึ้น ตัวขนของพรมปูพื้นผืนนี้นั้นนิ่มและหนา ให้การตัดเย็บที่แน่นไม่ทำให้ขนหลุดง่าย ใช้งานในห้องนั่งเล่นที่มีคนเข้าออกมากก็เหมาะมากเลย และสำหรับใครที่ต้องการมองหาพรมตกแต่งห้องที่มีราคาไม่แพงมากแต่อยากได้สไตล์บ้านที่ดูดีไม่ต่างจากพรมราคาแพง ก็ตัวนี้เลย




4. พรมแบบ 3D พรมปูข้างเตียง พรมปูพื้นห้องนั่งเล่น

พรมแบบ 3D พรมปูข้างเตียง พรมปูพื้นห้องนั่งเล่น


พรมแบบ3D มี 2 ขนาด40x60 cm./80X160 cm. พรมปูข้างเตียง พรมปูพื้นห้องนั่งเล่น พรม3มิติ ปูพ้นลายสวย พรม3Dผืนใหญ่ carpet พหรมใหญ่ พรมห้องพระ  ตกแต่งบ้านของคุณให้น่าอยู่ได้หลายแบบหลายๆสไตล์ด้วย ‘พรมอัดเรียบ’- พรมขนสั้น หมดปัญหาการอมฝุ่น- ขนของพรม มีความหนาแน่น นิ่มเนียน ไม่หลุดร่วง- ด้านล่างของพรม มียางกันลื่น- สามารถทำความสะอาดด้วยการดูดฝุ่น สามารถซักได้ไม่แนะนำให้ซักด้วยเครื่องซักผ้า การซักด้วยมือจะเป็นการถนอมขนพรมได้ดีที่สุด 



5. พรมในห้องนั่งเล่น พรมห้องนอน พรมนุ่มๆกันลื่น

พรมในห้องนั่งเล่น พรมห้องนอน พรมนุ่มๆกันลื่น


พรมในห้องนั่งเล่น พรมห้องนอน พรมนุ่มๆกันลื่น พรมสบาย พรมปูพื้น ผ้ากำมะหยี่ มี 4 ลาย หลายขนาดให้เลือก พรมระบายอากาศ พรมปูพื้นลวดลายสวยงามที่ทำจากผ้ากำมะหยี่อย่างดี สำหรับพรมนี้ไม่มีสีที่ตายตัวค่ะเพราะมันเป็นการผสมของสีหลาย ๆ สีที่จะช่วยยกระดับให้ห้องของคุณดูดีขึ้นได้ ลวดลายของพรมนั้นจะเป็นรูปสาวเหลี่ยมหลากสีดูสวยงามไม่เหมือนใคร เนื่องจากทำจากผ้ากำมะหยี่เมื่อใช้งานหรือผ่านการซักขนก็จะไม่หลุดออกมารบกวนใจของคุณอย่างแน่นอน เมื่อเดินลงบนพรมจะรู้สึกสบายเท้า อีกทั้งยังสามารถกันลื่นได้อย่างยอดเยี่ยมมาก หากใช้งานไปนาน ๆ ไม่ต้องกังวลเรื่องกลิ่นอับเลยเพราะระบายอากาศได้ดีมาก ดูดซับความชื้น ระบายอากาสได้ดี ดูแลรักษาง่าย สามารถซักได้ด้วยเครื่อง ไม่ซีดจาง ,ไม่หดตัว, ไม่เป็นขุย, ไม่เสียรูป วัสดุ ผ้ากำมะหยี่ ข้อดี นุ่มและกันลื่น



6. พรมปูพื้นห้อง หนานุ่ม เมมโมรี่โฟม

พรมปูพื้นห้อง หนานุ่ม เมมโมรี่โฟม


พรมปูพื้นห้อง หนานุ่ม เมมโมรี่โฟม หนา 2ซม. พรมปูพื้นนี้เป็นพรมปูพื้นที่มีสวยงามมาก มีหลายสีให้คุณได้เลือกซื้อกัน ไม่ว่าจะเป้นสีน้ำตาล สีเทา สีเบจหรือสีครีมก็สามารถเลือกได้ตามความชอบ นุ่มสบายแต่ไม่เก็บฝุ่นแบบรุ่นขนยาว สวยงามเหมาะกับบ้านทุกสไตล์ เกาะพื้นดีไม่เขยื้อน พรมหนานุ่ม เมมโมรี้โฟม หนา 2ซม. ขนาด 100*100 ซม.ขนสั้นไม่ยาว จึงไม่เก็บฝุ่น ไม่ก่อภูมิแพ้ งานเย็บปรานีต ด้ายไม่ยุ่ย ด้านหลังเกาะพื้นดี ไม่ขยับมีให้เลือก 4 สี- สีเทา- สีเบจ- สีครีม- สีน้ำตาล



7. พรม พรมปูพื้น พรมห้องนั่งเล่น พรมห้องนอน พรมขนยาว พรมทูโทน

พรม พรมปูพื้น พรมห้องนั่งเล่น พรมห้องนอน พรมขนยาว พรมทูโทน


พรม พรมปูพื้น พรมห้องนั่งเล่น พรมห้องนอน พรมขนยาว พรมทูโทน ขนนุ่มฟู ขนหนา หลายสี ผลิตจากโพลีเอสเตอร์ ใยสังเคราะห์คุณภาพดีขนของพรม มีความนุ่ม นิ่มเนียน ถักทอแน่น ไม่หลุดร่วงด้านล่างของพรม ออกแบบพิเศษป้องกันไม่ให้ลื่น ช่วยให้พรมยึดเกาะกับพื้นได้ดีสามารถทำความสะอาดด้วยการดูดฝุ่น สามารถซักได้ (ไม่แนะนำให้ซักด้วยเครื่องซักผ้า การซักด้วยมือจะเป็นการถนอมขนพรมได้ดีที่สุด)เหมาะสำหรับปูบริเวณห้องรับแขก ห้องนั่งเล่น ห้องนอน ห้องทำงาน ห้องพระ หรือสถานที่ที่ต้องการเพิ่มความสวยงามสำหรับการใช้งานครั้งแรก แนะนำให้ลูกค้าทำความสะอาดพรมก่อนการใช้งาน เนื่องจากอาจจะมีลูกขนพรมติดจากทางโรงงานไปบ้างขนาด 140 * 200 cm.



8. Shuaicai Retro พรมหรูหราเสื่อลื่นพรมปูพื้นสำหรับกาแฟ

Shuaicai Retro พรมหรูหราเสื่อลื่นพรมปูพื้นสำหรับกาแฟ


Shuaicai 80*120cm Retro พรมหรูหราเสื่อลื่นพรมปูพื้นสำหรับกาแฟในห้องนั่งเล่นตารางตกแต่งห้องนอน  เหมาะมากสำหรับบ้านที่ผ่านการตกแต่งแบบคลาสสิค ตัวพรมมี 4 สีและ 4 ลวดลายให้คุณได้เลือกตามใจชอบ ผ่านการถักทออย่างดีทำให้มันสามารถระบายอากาศได้อย่างยอดเยี่ยมมาก อีกทั้งยังสามารถกันลื่นได้ดีมาก ไม่กักเก็บฝุ่นจึงทำความสะอาดได้ดีมาก นุ่มสบายและระบายอากาศได้ความหนาปานกลางและเท้าที่สบาย กันฝุ่น กันฝุ่น ซักเครื่องได้ ขั้นตอนการเย็บอย่างแน่นหนาไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะออกจากเส้นและชั้นล่างกันลื่นไม่ทำร้ายพื้น



9. พรมปูพื้นห้อง ขนาด 80x120 cm.YF-1292 

พรมปูพื้นห้อง ขนาด 80x120 cm.YF-1292 


พรมปูพื้นห้อง ขนาด 80x120 cm YF-1292 พรมปูพื้นห้องนี้มีขนาดพอเหมาะสำหรับปูไว้ใต้โซฟา ตัวพรมเป็นผ้ากำมะหยี่ขนสั้น ที่ไม่ทำให้เกิดการระคายเคืองหรือก่อให้เกิดภูมิแพ้ มีหลากหลายสีและหลายลวดลาย สีที่ตกแต่งในพรมก็เป็นสีสันที่สดใสซึ่งจะช่วยยกระดับให้บ้านของคุณดูดีขึ้นอย่างไม่น่าเชื่อ ตัวพรมเป็นรูปแบบสี่เหลี่ยมแผ่นใหญ่พอสมควร มีการตัดเย็บที่ดีไร้รอยต่อ วัสดุ: ผ้า+ไม่ทอผ้า.สัมผัสกำมะหยี่อ่อนนุ่มและไม่ทอผ้าทำให้รู้สึกสบายใจดีไซน์ทันสมัยสุดหรูคอมพิวเตอร์สามารถใส่ไว้ใต้เก้าอี้ โต๊ะ โต๊ะรับประทานอาหาร นอน การศึกษา การนอน ทางเดิน ทางน้ำ เดิน นอน ฯลฯปกติบ้านนี้จะติดตั้งพรม ใช้ สะอาด 



10. TTO พรม พรมปูพื้น สีทูโทน

TTO พรม พรมปูพื้น สีทูโทน


TTO พรม พรมปูพื้น สีทูโทน มี 3 ขนาด (40x60 ซม./80x160 ซม./ 120x160 ซม./ ) พื้นพรมกันลื่น พรม พรมตกแต่งบ้าน พรมปูพื้นห้อง พรมปูพื้นห้องรับแขก ห้องนั่งเล่น ห้องนอน พรมตกแต่งห้อง มี 9 สี คือ น้ำตาล / น้ำตาลอ่อน / เรดไวน์ / ชมพู / ครีม / เทา / เทาอ่อน / กรมท่า / ฟ้า  วัสดุผลิตจากโพลีเอสเตอร์ ใยสังเคราะห์คุณภาพดีให้สัมผัสนุ่มสบาย เนื้อของพรม มีความนุ่ม นิ่มเนียน ถักทอแน่น ให้ความรู้สึกที่ดีทุกครั้งที่สัมผัส คุณสมบัติพิเศษ : ด้านล่างของพรม มีวัสดุกันลื่นด้วยเม็ด Dot คุณภาพสูง ช่วยให้พรมยึดเกาะกับพื้นได้ดี ไม่ลื่นไถล ช่วยป้องกันพื้นผิวของพื้นจากความเสียหายต่าง ๆ ได้ ความยาวของขนหน้าพรมกว่า 4 ซม. ยึดติดแน่น ไม่หลุดร่วง ดูแลรักษาง่าย สามารถทำความสะอาดด้วยการดูดฝุ่น สามารถซักได้ (ไม่แนะนำให้ซักด้วยเครื่องซักผ้า การซักด้วยมือจะเป็นการถนอมขนพรมได้ดีที่สุด) เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และปลอดภัยต่อร่างกายของมนุษย์และสัตว์เลี้ยง มีรูปแบบแฟชั่นสไตล์โมเดิร์นมุมมองที่สวยงาม เหมาะสำหรับปูบริเวณห้องรับแขก ห้องนั่งเล่น ห้องนอน ห้องทำงาน ห้องพระ หรือสถานที่ที่ต้องการเพิ่มความสวยงาม สำหรับการใช้งานครั้งแรก แนะนำให้ลูกค้าทำความสะอาดพรมก่อนการใช้งาน เนื่องจากอาจจะมีลูกขนพรมติดจากทางโรงงานไปบ้าง



วิธีเลือกพรมปูพื้น 

สำหรับใครที่อยากได้พรมปูพื้นบ้านสวย ๆ ที่ให้ทั้งความนุ่มสบายเท้า ช่วยเพิ่มสไตล์การตกแต่งบ้านให้หรูหราได้มากขึ้น 

พรมปูพื้น เสื่อ พรมเช็ดเท้า
เช็คราคาจาก Lazada  เช็คราคาจาก Shopee

  • เลือกใช้ให้เหมาะสม ประหยัดเงินได้มากกว่า สำหรับคนที่คิดจะปูพรมทั้งบ้าน แนะนำให้เลือกปูพรมหลาย ๆ ชนิดตามความเหมาะสมกับการใช้งานห้องต่าง ๆ เนื่องจากพรมขนห่วงที่มีเส้นทอหนาแน่น คุณภาพสูง มักจะมีราคาค่อนข้างแพงตามไปด้วย ฉะนั้นเราควรเลือกปูพรมชนิดนี้กับห้องที่ไม่ค่อยถูกใช้งานอย่างหนักหน่วง เพื่อเป็นการยืดอายุพรมปูพื้นให้ใช้ได้นาน ๆ และคุ้มค่าที่สุด แต่สำหรับพื้นโถงทางเดิน พื้นห้องครัว และพื้นห้องนั่งเล่น อาจเลือกปูพรมขนตัดที่มีแม้จะมีความหนาแน่นของเส้นพรมเบาบางกว่า แต่ก็ทนทานและให้สัมผัสนุ่มเท้าค่อนข้างมาก ควรเลือกปูพรมที่มีคุณสมบัติป้องกันการซึมเปื้อนของคราบด้วย
  • ชนิดของพรมต้องดูให้ดี เนื่องจากพรมปูพื้นมีอยู่ด้วยกันหลายชนิด การตัดสินใจเลือกใช้พรมที่ดูสวยและเหมาะกับสไตล์บ้านแค่นั้นอาจจะไม่พอ เราต้องเลือกปูพรมที่มีเส้นทอแน่นหนาจนแทบไม่เหลือช่องว่างให้เห็นบุรอง เส้นพรมต้องนิ่มและฟูเพื่อให้รองรับแรงกระแทกได้ดี ที่สำคัญต้องให้สัมผัสนุ่มเท้าด้วย ซึ่งลักษณะพรมแบบนี้ควรใช้กับพื้นที่ที่ไม่ค่อยมีคนเดินบ่อย เช่น ห้องนอน เป็นต้น ส่วนห้องที่ใช้ค่อนข้างมีคนเดินพลุกพล่าน เช่น ห้องครัวและห้องนั่งเล่น ควรเลือกใช้พรมขนสั้นหรือพรมผิวเรียบเพื่อให้ดูดฝุ่นและทำความสะอาดได้ง่ายแทน
  • พื้นรองพรมควรเป็นพื้นยาง เพื่อให้เราแน่ใจได้ว่าพรมปูพื้นบ้านของเราจะไม่สึกหรอในเร็ววัน โดยวัสดุรองพื้นพรมที่ดีควรต้องเป็นพื้นยางซึ่งจะช่วยให้พรมยึดพื้นบ้านได้อย่างแน่นหนากว่าวัสดุอื่น ๆ นอกจากนี้น้ำหนักสุทธิของพรมควรจะอยู่ราว ๆ 2.7-3.6 กิโลกรัม โดยมีเส้นไหมอย่างน้อย 3-4 เส้นไหม ต่อ 1 เส้นพรม
  • เส้นพรมควรเป็นวัสดุธรรมชาติ  เพราะ พรมสังเคราะห์มักจะมีสาร VOCs ซึ่งเป็นสารระเหยที่อันตรายกับสุขภาพและสิ่งแวดล้อมรอบบ้านเป็นอย่างมาก ฉะนั้นคงดีกว่าถ้าเราจะหันมาเลือกปูพรมที่ผลิตจากเส้นใยธรรมชาติแทน เช่น พรมขนสัตว์ พรมที่ถักจากปอ หรือวัสดุธรรมชาติอื่น ๆ จะได้ปลอดภัยทั้งครอบครัว เมื่อปูพรมให้พื้นบ้านแล้ว ก็ควรต้องดูแลรักษาความสะอาดให้บ่อยขึ้น ด้วยการดูดฝุ่นผืนพรมเป็นประจำทุกสัปดาห์ และระมัดระวังอย่าให้น้ำหรืออาหารหกเลอะบนผืนพรม ส่วนใครที่เลี้ยงสัตว์ต้องหมั่นดูดฝุ่นด้วยช
  • เลือกพรมสีไหนดี  ถ้าคุณต้องการให้ห้องมีบรรยากาศเย็นสงบควรปูพรมสีฟ้าหรือสีเขียว แต่สำหรับห้องเล็กที่ต้องการทำให้ดูกว้างควรเลือกปูพรมสีสว่าง ส่วนห้องขนาดใหญ่ที่ต้องการเสริมบรรยากาศอบอุ่นควรใช้พรมสีทองหรือสีแดงอ่อน หรือถ้าผนังห้องตกแต่งไว้ฉูดฉาดอยู่แล้วอาจจะเลือกปูพื้นพรมสีเนื้อหรือสีครีมแทนก็ได้ ส่วนใครต้องการปกปิดคราบสกปรกและต้องการให้ห้องมีบรรยากาศลึกลับน่าค้นหา แนะนำให้ปูพรมสีดำหรือสีเข้มไปเลย แต่อย่างไรก็ดี การเลือกสีของพรมก็ควรแมทช์กับสไตล์การตกแต่งบ้านของคุณ
  • ถ้าต้องการปูพรมให้ขั้นบันไดเพื่่อความสวยงามดูสง่า แนะนำให้เลือกปูพรมขนตัดแทนพรมขนห่วง เนื่องจากพรมขนตัดจะมีลักษณะที่เหมาะกับการโค้งงอตามรูปขั้นบันไดมากกว่าพรมขนห่วง แต่ทั้งนี้ก็ควรเลือกพรมที่มีเส้นทอหนาแน่นพอสมควรด้วยนะคะ ไม่อย่างนั้นเมื่อพรมต้องโค้งงอตามขั้นบันไดแล้ว เส้นพรมอาจแตกแยกจนเห็นไปถึงวัสดุบุรองได้ โดยวิธีทดสอบความแน่นหนาของผืนพรมก็ทำได้ง่าย ๆ เพียงแค่ใช้นิ้วจิ้มลงไปบนพื้นพรม หากเส้นพรมของผืนพรมหนาและละเอียดมากพอ เราจะไม่สามารถแตะไปจนถึงวัสดุบุรองได้
  • ต้องรู้วิธีการทำความสะอาดพรมเบื้องต้นไว้ก่อนว่า พรมชนิดนั้น ๆ ควรดูแลรักษาเบื้องต้นอย่างไร และขั้นตอนการทำความสะอาดพรมที่ถูกต้องควรทำยังไง โดยเฉพาะบ้านที่มีเด็กและสัตว์เลี้ยงอยู่ด้วย คุณควรต้องเรียนรู้วิธีทำความสะอาดพรมและการดูแลพรมเบื้องต้นไว้เอาเลย อีกทั้งอย่าลืมเลือกพรมที่มีคุณสมบัติป้องกันคราบซึมเปื้อนมาใช้แทนพรมปกติ เพราะพรมที่มีคุณสมบัติพิเศษเหล่านี้จะทำความสะอาดได้ง่ายกว่า ช่วยย่นระยะเวลาการทำความสะอาดของคุณให้น้อยลง
  • ซื้อพรมที่มีการรับประกันและดูแลหลังการขายได้ดี พรมเป็นวัสดุที่ควรต้องได้รับการดูแลรักษาและมีระยะเวลาการใช้งานอย่างชัดเจน ร้านที่บริการปูพรมจึงมักจะมีการรับประกันผืนพรมที่เราซื้อ แถมอาจจะมีบริการหลังการขายด้วย ซึ่งถ้าเป็นอย่างนี้ก็ค่อนข้างคุ้มค่า


พรมในบ้าน มีอะไรบ้าง?

  • พรมผืนใหญ่ มักใช้เป็นพรมปูพื้น สำหรับตกแต่งบ้านและห้องต่างๆ เช่น ห้องรับแขก ห้องนั่งเล่น
  • พรมผืนเล็ก จะมีลักษณะที่บาง ไม่ค่อยซึมซับน้ำ
  • พรมผ้าขนหนู มีลักษณะหนาขึ้นกว่าพรมผืนเล็ก และซึมซับน้าได้ดี
  • พรมห้องน้ำ มีความหนา ซึมซับน้ำได้ดี และรูปทรงจะมีคอเว้า เพื่อให้เข้ากับสุขภัณฑ์อย่าง ชักโครกและอ่างล้างหน้า
  • แผ่นรองนั่ง จะมีความหนากลางๆ และมีลวดลายสวยงาม เหมาะสมใช้งานเป็นแผ่นอเนกประสงค์ต่างๆ

ข้อดีของพรมปูพื้น

  • มีความสวยงาม เพราะมีพรมให้เลือกมากมายหลายแบบ หลากสีสัน และสารพัดลวดลาย อาจจะเน้นความหรูหรา หรือไม่ก็เน้นความสดใส ตอบโจทย์ ของผู้ซื้อได้อย่างครอบคลุม และพรมตกแต่งบ้านยังแสดงให้เห็นถึงรสนิยมที่มีระดับของเจ้าของบ้านได้เป็นอย่างดี
  • ช่วยป้องกันรอยขีดข่วน หมดกังวลได้เพราะพรมปูพื้นสามารถช่วยป้องกันรอยขีดข่วนบนพื้นบ้านได้เป็นอย่างดี และทำได้ง่าย ๆ เพียงปูพรมแล้ววางเฟอร์นิเจอร์ที่มีขาหรือเคลื่อนที่ได้ลงไปก็เป็นอันเสร็จเรียบร้อย หรือใช้เป็นพรมตกแต่งห้องนอนบริเวณปลายเตียง ได้ทั้งความสวยงามและกันรอยจากขาเตียง
  • ช่วยดักจับฝุ่นละออง เพราะ พรมปูพื้นก็จะช่วยลดการกระจายฝุ่นละอองได้ ไม่ว่าจะเป็นฝุ่นผง เม็ดทราย หรือขนสัตว์ ก็ล้วนแล้วแต่ติดอยู่กับพรม พรมปูพื้นจึงเป็นทางเลือกที่ดีในการตกแต่งหลังประตูทางเข้าบ้าน หรือใช้พรมปูพื้นห้องนอนเพื่อดักจับฝุ่นใต้เท้าก่อนขึ้นเตียงนอน
  • ให้ความอบอุ่นเพราะพรมปูพื้นมีประโยชน์ในการรักษาอุณหภูมิพื้นผิวในบ้านให้เหมาะสม ด้วยคุณสมบัติเป็นฉนวนและกักเก็บความร้อนได้ โดยเฉพาะกับพรมที่ผลิตมาให้มีคุณสมบัติใกล้เคียงกับขนสัตว์ เช่น 
  • พรมอะคริลิค (Acrylic) และพรมไนลอน (Nylon) เจ้าของบ้านจะรู้สึกถึงความอุ่นสบายเท้าทันทีเมื่อเทียบกับการเดินบนพื้นเย็น ๆ ที่ไม่มีพรม
  • ลดโอกาสที่จะเกิดอุบัติเหตุในบ้านด้วยพรมที่มีพื้นผิวกันลื่นในตัว ถ้าเป็นพรมที่มีขนหนานุ่มหรือพรมยางที่มีคุณสมบัติกันกระแทก ก็จะยิ่งช่วยลดแรงกระแทกเมื่อหกล้มได้ดีกว่าพื้นกระเบื้องหรือพื้นไม้เป็นอย่างมาก บ้านไหนที่มีเด็กหรือคนชราจึงควรมีพรมแต่งห้องเอาไว้ช่วยลดการลื่นล้ม โดยเฉพาะหน้าห้องน้ำและบันได


ข้อเสียของพรมปูพื้น

  • เป็นแหล่งสะสมฝุ่นและเชื้อรา หากเจ้าของบ้านไม่หมั่นดูดฝุ่นบนพรมในบ้าน จากเคยเป็นที่ดักจับฝุ่นละอองก็จะกลายเป็นแหล่งสะสมฝุ่นและแพร่กระจายเชื้อโรคเสียเอง โดยเฉพาะเชื้อราและไรฝุ่นที่ดูจะชื่นชอบพรมปูพื้นเป็นพิเศษ พรมปูพื้นจึงเป็นสิ่งที่ควรหลีกเลี่ยงหากคนในบ้านเป็นโรคภูมิแพ้
  • ความไม่คงทนถือเป็นข้อเสียหลักของพรมปูพื้นเลย เพราะกลายเป็นว่าทุกคนในบ้านต้องเดินย่ำพรมบ่อย ๆ แทนพื้น และยิ่งมีเฟอร์นิเจอร์ลากไปลากมาหรือกดทับบนพรมด้วยแล้ว จะแพงแค่ไหนก็อยู่ได้ไม่นาน เว้นแต่จะใช้พรมทอเครื่องผืนใหญ่ที่ใช้กับห้องจัดเลี้ยงในโรงแรม 
  • ทำความสะอาดยาก ไม่ว่าจะเป็นพรมเล็กหรือใหญ่ หากทำน้ำหวานหรืออาหารหกใส่ เพราะพรมที่เน้นความสวยงามก็มักจะทำความสะอาดยากมาก หรือต่อให้ทำความสะอาดไปแล้วแต่ก็ยังอาจมีรอยเปื้อนและกลิ่นติดอยู่ได้ ยิ่งเป็นพรมที่มีขนฟูฟ่องละมุนเท้าแล้ว หากมีอะไรหกใส่เลอะเทอะ ก็อาจจะต้องโยนทิ้งถังขยะ
  • ไม่เหมาะกับบ้านที่เลี้ยงสัตว์ สำหรับสัตว์เลี้ยงแล้ว พรมปูพื้นนั้นเปรียบเสมือนทุ่งปลดทุกข์สำหรับพวกมันเลยก็ว่าได้ แม้ว่าจะนำพรมไปซักได้ แต่กลิ่นก็จะยังติดพรมผื่นนั้นอยู่ และสัตว์เลี้ยงก็จะขับถ่ายที่เดิมซ้ำ ๆ ต่อไป และยิ่งถ้าสัตว์เลี้ยงในบ้านชอบกันแทะด้วยแล้ว รับรองเลยว่าต่อให้พรมทนทานแค่ไหน ก็ไม่เหลือชิ้นดีอย่างแน่นอน
  • เป็นความจริงที่ว่า พรมดีมักมีราคาแพง ถ้าซื้อพรมปูพื้นราคาถูกมาใช้ ไม่นานเส้นใยก็จะหลุดลุ่ยและเสื่อมสภาพ หรือไม่ก็ผิดรูปผิดทรงจากที่เคยซื้อมาใหม่ ๆ ซึ่งนั่นเป็นเพราะวัสดุที่ใช้ไม่ได้คุณภาพ ดังนั้นหากต้องการความทนทาน ก็ต้องซื้อพรมที่ใช้วัสดุสังเคราะห์คุณภาพดี เช่น พรมไนลอน (Nylon) และพรมโพลีโปรไพลีน (Polypropylene) แต่ก็ต้องแลกกับราคาที่แพงกว่าเช่นกัน


บทสรุป

พรมปูพื้นในบ้าน มากกว่าการตกแต่ง แต่ใช้สอยได้หลากประโยชน์  นิยมใช้สำหรับตกแต่งพื้นบ้านและประดับห้องต่างๆให้ดูสวยงาม ทั้งห้องรับแขก ห้องนั่งเล่น ห้องรับประทานอาหาร และห้องนอน บางบ้านเลือกซื้อพรมปูพื้นสำหรับรองรับคราบสกปรกและใช้ดักฝุ่น ขณะเดียวกันการเลือกซื้อพรมปูพื้นอย่างหนา ก็สามารถช่วยเก็บเสียงและเก็บอุณหภูมิความเย็นช่วยลดแรงกระแทกได้ระดับนึง หากลูกหลานหรือคนสูงวัยเกิดลื่นล้มในบ้าน จะเห็นได้ว่าพรมปูพื้นในบ้านไม่ใช่เพียงการตกแต่งบ้านให้สวยงาม แต่ยังสามารถใช้สอยได้หลากหลายประโยชน์ที่คุณคาดไม่ถึง